ข้อมูลบริษัท



FVC และ 4 บริษัทย่อย (บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (KTMS), บริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (IRV), บริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด (MV) และ บริษัท ไฮเฮลธ์ แคร์ เซ็นเตอร์ จำกัด (HHC))...เราประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบบบำบัดน้ำให้บริสุทธิ์ (Purified water treatment system) โดยบริษัทเป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบบำบัดน้ำให้บริสุทธิ์จากต่างประเทศ ด้วยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบระบบและสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำให้บริสุทธิ์ทั้งงานที่มีความซับซ้อนน้อยไปจนถึงงานที่ต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในหลากหลายกลุ่มธุรกิจ รวมถึงการให้บริการทางการแพทย์ เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ ตลอดจนความงามและผิวพรรณ
ก้าวเข้าสู่ปีที่ 25  เราได้ดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาลและมีพัฒนาการในการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยทีมผู้บริหารมากด้วยประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในเรื่องระบบบำบัดน้ำให้บริสุทธิ์ การให้บริการหน่วยไตเทียมและบริการทางการแพทย์ เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ ตลอดจนความงามและผิวพรรณ หัวใจสำคัญในการทำงานของเรา คือ การพัฒนาคุณภาพสินค้าและคุณค่าในการให้บริการ ด้วยเครื่องมือ อุปกรณ์ และการประยุกต์ใช้เทคโนลีอันทันสมัยที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานภายในองค์กรรวมถึงเพื่อนำเสนอและส่งมอบสินค้าและบริการต่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้วยความพึงพอใจอย่างสูดสุดในราคายุติธรรม 

ธุรกิจของเราแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ดังนี้
กลุ่มธุรกิจ B1: กลุ่มอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ (Industrial and Original Equipment Manufacturer “OEM”)
กลุ่มธุรกิจ B2: กลุ่มธุรกิจเพื่อการพาณิชย์และที่พักอาศัย (Commercial and Residential)
กลุ่มธุรกิจ B3: กลุ่มธุรกิจหน่วยไตเทียมและบริการทางการแพทย์ (Hemodialysis & Medical Service)
กลุ่มธุรกิจ B4: ความงามและผิวพรรณ (Beauty Care)
เราเชื่ออยู่เสมอว่า การสร้างมาตรฐานตลอดจนการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการในการดำเนินงานจะเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการพัฒนาธุรกิจให้ดำเนินต่อไปได้แม้ในสภาวะการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม นวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน


2538 ณ วันที่ 11 พฤษภาคม 2538 ได้ก่อตั้งบริษัทด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบบำบัดน้ำให้บริสุทธิ์ โดยมีที่ทำการตั้งอยู่ในเขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร

ในปีเดียวกันบริษัทได้เริ่มเป็นตัวแทนให้กับบริษัท Ametek ทำตลาดภายใต้ตราชื่อสินค้า Ametek ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักคืออุตสาหกรรมโรงงานโดยนำเข้าไส้กรองที่ทำจากใยพลาสติก ต่อมาบริษัท Ametek ได้ถูกซื้อกิจการโดยบริษัท Plymounth Production Division และในปี 2545 บริษัท Plymounth Production Division ได้ถูกบริษัท Pentair Pacific Rim (Water) Limited ซื้อกิจการไป ปัจจุบันบริษัทเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายให้กับบริษัท Pentair Pacific Rim (Water) Limited โดยร่วมกับ ผู้จำหน่ายทำตลาดผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบบำบัดน้ำให้บริสุทธิ์สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมภายใต้ ตราสินค้า Pentek
2539 บริษัทได้รับการไว้วางใจจากบริษัท Rcan Environmental Inc. แต่งตั้งให้บริษัทเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าเชื้อในน้ำภายใต้ตราชื่อสินค้าSterilight ปัจจุบัน บริษัทได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นบริษัท Viqua
2541 วันที่ 28 ธันวาคม 2541 ได้ก่อตั้งบริษัท นิวแมคอาเธอร์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1.00 ล้านบาท เพื่อดำเนินการการให้บริการในการติดตั้งและดูแลระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบบำบัดน้ำให้บริสุทธิ์
2542 บริษัทได้รับการไว้วางใจจากบริษัท Wedeco ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องฆ่าเชื้อด้วย UV และเครื่องกำหนดก๊าซโอโซน ได้แต่งตั้งบริษัทให้เป็นตัวแทนจัดจำหน่าย ต่อมาปี 2547 บริษัท Wedeco ได้ถูกซื้อกิจการไปโดยบริษัท ITT Water and Wastewater และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นบริษัท Xylem Water Solution ซึ่งปัจจุบันบริษัทไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายให้แก่ผู้จำหน่ายรายนี้แล้ว
2543 บริษัทได้เริ่มทำตลาดกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจเพื่อการพาณิชย์เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เป็นต้น โดยได้ร่วมมือกับบริษัท Everpure Inc. ในการทำตลาดภายใต้ตราชื่อสินค้า Everpure ต่อมาในปี 2546 บริษัท Everpure Inc. ได้ถูกบริษัท Pentair Filtration Solution, LLC ซื้อกิจการไป ซึ่งบริษัทยังคงเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับ Pentair Filtration Solution, LLC สำหรับกลุ่มธุรกิจเพื่อการพาณิชย์
2545 วันที่ 28 พฤศจิกายน 2545 บริษัทได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียน จาก 1.00 ล้านบาท เป็น 20.00 ล้านบาท โดยเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท เพื่อใช้เป็นในเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
2547 บริษัท นิวแมคอาเธอร์ จำกัด ได้เริ่มขยายการให้บริการในภาคเหนือ โดยการเช่าอาคารเพื่อตั้งเป็นศูนย์บริการ ที่อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
2549 วันที่ 19 พฤษภาคม 2549 บริษัทได้มีการทำสัญญาซื้อที่ดินพร้อมอาคารสำนักงาน เพื่อเป็นที่ทำการใหม่ของบริษัทและคลังสินค้า ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 95 ซอยรามอินทรา 117 ถนนรามอินทรา แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร และเป็นที่ทำการปัจจุบันของบริษัท
2550 วันที่ 11 ธันวาคม 2550 บริษัทได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียน จาก 20.00 ล้านบาท เป็น 30.00 ล้านบาท โดยเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
2551 วันที่ 26 กันยายน 2551 บริษัท นิวแมคอาเธอร์ จำกัด ได้ซื้อที่ดินพร้อมอาคารเพื่อเป็นศูนย์บริการทางด้านเทคนิคในส่วนภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
2552 วันที่ 27 มีนาคม 2552 ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารได้อนุมัติการเปิดหน่วยบริการทางเทคนิค ที่อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทางภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2552 เป็นต้นไป

วันที่ 5 ตุลาคม 2552 บริษัท นิวแมคอาเธอร์ จำกัด ได้ซื้อที่ดินพร้อมอาคารเพื่อเป็นศูนย์บริการทางด้านเทคนิคในส่วนภูมิภาคเหนือ ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

วันที่ 8 ธันวาคม 2552 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียน จาก 30.00 ล้านบาท เป็น 44.00 ล้านบาท โดยเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะนำไปใช้สำหรับเงินทุนหมุนเวียนและลงทุนในระบบบริหารจัดการ (ERP) ทำให้บริษัทสามารถให้บริการและจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
2553 ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2553 ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารได้อนุมัติการเปิดหน่วยบริการทางเทคนิคที่ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก โดยให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2553 เป็นต้นไป

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2553 ณ ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ได้มีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน จาก 44 ล้านบาท เป็น 60.40 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 163,986 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่มูลค่าหุ้นละ 148.53 บาทซึ่งอ้างอิงจากมูลค่าหุ้นทางบัญชีตามงบการเงินของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2553 เพื่อชำระค่าซื้อกิจการของบริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท นิวแมคอาเธอร์ จำกัด โดยหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 163,986 หุ้น สามารถแบ่งได้ดังนี้

บริษัท นิวแมคอาเธอร์ จำกัด ซึ่งมีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 5.00 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 50,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท นิวแมคอาเธอร์ จำกัด ได้นำหุ้นสามัญจำนวน 49,998 หุ้น โดยมีมูลค่าหุ้นทางบัญชีตามงบการเงินของบริษัท นิวแมคอาเธอร์ จำกัด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2553 เท่ากับ 167.66 บาทต่อหุ้นและเมื่อเทียบกับมูลค่าหุ้นทางบัญชีของหุ้นบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2553 แล้ว ได้จำนวนหุ้นของบริษัทที่จัดสรรให้บริษัท นิวแมคอาเธอร์ จำกัด เป็นจำนวน 56,435 หุ้น ในราคาหุ้นละ 148.53 บาท คิดเป็นมูลค่า 8,382,348 บาท (มีทุนที่ออก 5,643,500 บาท และ ส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญ 2,738,848 บาท)

บริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งมีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 25.00 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 250,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยบริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้นำหุ้นสามัญจำนวน 249,998 หุ้น โดยมีมูลค่าหุ้นทางบัญชีตามงบการเงินของบริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2553 เท่ากับ 63.90 บาทต่อหุ้นและเมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชีของหุ้นบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2553 แล้ว ได้จำนวนหุ้นของบริษัทที่ได้จัดสรรให้เป็นจำนวน 107,551 หุ้น ในราคาหุ้น 148.53 บาท คิดเป็นมูลค่า 15,974,661 บาท (มีทุนที่ออก 10,755,100 บาท และส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญจำนวน 5,219,561 บาท)

โดยหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมดนี้เป็นหุ้นที่ต้องชำระด้วยทรัพย์สินอื่นที่ไม่ใช่เงิน และถือเสมือนว่าบริษัท นิวแมคอาเธอร์ จำกัด และบริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนเต็มจำนวนแล้ว และได้จดทะเบียนการเพิ่มทุนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2553

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2553 ณ ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ได้มีมติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียน จาก 60.40 ล้านบาท เป็น 70.40 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 100,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่มูลค่าหุ้นละ 139.00 บาท เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นหุ้นเดิมจำนวน 4 ราย ซึ่งบริษัทได้นำเงินจากการเพิ่มทุนมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน บริษัทได้จดทะเบียนการเพิ่มทุนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2554

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2554 ณ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท โดยคณะกรรมการมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2553 ในอัตราหุ้นละ 14 บาท สำหรับหุ้นสามัญทั้งหมดจำนวน 703,986 หุ้น รวมเป็นเงิน 9.9 ล้านบาท โดยจ่ายเงินปันผลเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2554
2554

วันที่ 15 สิงหาคม 2554 ณ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติโอนกิจการ บริษัท นิวแมค อาเธอร์ จำกัด ให้กับบริษัท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารกิจการภายในกลุ่มของบริษัท

การโอนกิจการจากบริษัท นิวแมคอาเธอร์ จำ กัด ให้กับบริษัทนั้นเป็นการรับโอนพนักงาน และรับซื้อสินทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ และ
สินค้าคงเหลือ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2554 และจะให้เสร็จสิ้นโดยจะหยุดดำเนินการบริษัท นิวแมคอาเธอร์ จำกัด
ทั้งหมดภายในเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันเริ่มดำเนินการโอนกิจการ

วันที่ 14 ตุลาคม 2554 ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารได้อนุมัติการเปิดหน่วยบริการทางเทคนิคที่ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เพื่อให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทางภาคตะวันออก โดยให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2554 เป็นต้นไป

วันที่ 15 ธันวาคม 2554 บริษัท และบริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ทำสัญญาเช่าคลังสินค้าจำนวนรวม 2 แห่งเพื่อจัดเก็บสินค้า ตั้งอยู่ในพื้นที่ เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับการขยายธุรกิจและปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

2555 เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2555 บริษัทได้รับประกาศนียบัตรจาก TRACE (WWW.TRACEINTERNATIONAL.ORG) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระระดับสากลในการประเมินและตรวจสอบประวัติของบริษัทและผู้บริหารรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องความโปร่งใส โอกาส และความเสี่ยงที่บริษัทอาจจะมีส่วนได้เสียกับการคอร์รัปชั่น สำหรับช่วงเวลาวันที่ 15 เมษายน 2555 ถึง วันที่14 เมษายน 2556

ณ วันที่ 26 เมษายน 2555 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทแปรสภาพจากบริษัทเป็นบริษัทมหาชนจำกัด เพื่อเตรียมพร้อมในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ และเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้จากหุ้นละ 100 บาท เป็นหุ้นละ 0.50 บาท พร้อมทั้งเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 70.40 ล้านบาท เป็น 100.00 ล้านบาท โดยจัดสรรเพื่อเสนอขายให้แก่ประชาชนจำนวน 59.20 ล้านหุ้น

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2555 บริษัทได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) ตามกฎกระทรวงแรงงานเรื่องการกำหนดมาตรฐานและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2549 เพื่อมาตรฐานชีวิต สุขภาพ ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมการทำงานที่ดีของพนักงานบริษัท

นอกจากนี้ ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2555 บริษัทได้มีการเข้าร่วมโครงการ SPLASH INTERNATIONAL(เดิมชื่อ A Child’s Right) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร โดยเป็นการร่วมมือระหว่างโครงการ SPLASH กับ บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) และPartner (โรงเรียน สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า สถานพินิจ) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการติดตั้งระบบเครื่องกรองน้ำการกุศล ซึ่งทางโครงการ SPLASH จะเป็นผู้ลงทุนด้
2556

เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2556 บริษัทได้รับประกาศนียบัตรต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จาก TRACE ซึ่งเป็นองค์กรอิสระระดับสากลในการประเมินและตรวจสอบประวัติของบริษัทและผู้บริหารรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องความโปร่งใส โอกาส และความเสี่ยงที่บริษัทอาจจะมีส่วนได้เสียกับการคอร์รัปชั่น สำหรับช่วงเวลาวันที่ 15 เมษายน 2556 ถึง วันที่14 เมษายน 2557

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2556 บริษัทได้ซื้อที่ดินพร้อมอาคารเพื่อเป็นศูนย์บริการทางด้านเทคนิคในส่วนภูมิภาคเหนือ ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โดยซื้อจากบริษัท นิวแมคอาเธอร์ จำกัด

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2556 บริษัทได้ซื้อที่ดินพร้อมอาคารเพื่อเป็นศูนย์บริการทางด้านเทคนิคในส่วนภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยซื้อจากบริษัท นิวแมคอาเธอร์ จำกัด

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2556 บริษัท นิวแมคอาเธอร์ จำกัด ได้จดทะเบียนเลิกบริษัทต่อกระทรวงพาณิชย์แล้ว และได้หยุดดำเนินกิจการและอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อชำระบัญชีบริษัท

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2556 บริษัท และ บริษัทย่อยได้ทำสัญญาเช่าคลังสินค้าเพิ่ม 1 แห่งเพื่อจัดเก็บสินค้า ตั้งอยู่ในพื้นที่ เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับการขยายธุรกิจและปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2556 บริษัทได้เสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 59.20 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.20 บาท ให้แก่ประชาชนทั่วไป (Initial Public Offering) โดยบริษัทได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนที่ออกจำหน่ายและชำระแล้วจากจำนวน 70.4 ล้านบาท (หุ้นสามัญ 140.8 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท) เป็นจำนวน 100.0 ล้านบาท   (หุ้นสามัญ 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท) กับกระทรวงพาณิชย์แล้วเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2556  จำนวนเงินสุทธิที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 67.0 ล้านบาท (สุทธิจากต้นทุนในการจำหน่ายหุ้นจำนวน 4.0 ล้านบาท) และบริษัทรับรู้ส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญจำนวนทั้งสิ้น 37.4 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2556 บริษัทได้จดทะเบียนเข้าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยหุ้นสามัญของบริษัทได้รับอนุมัติเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai: Market for Alternative Investment)


2557
เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2557 บริษัทได้รับประกาศนียบัตรต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จาก TRACE ซึ่งเป็นองค์กรอิสระระดับสากลในการประเมินและตรวจสอบประวัติของบริษัทและผู้บริหารรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องความโปร่งใส โอกาส และความเสี่ยงที่บริษัทอาจจะมีส่วนได้เสียกับการคอร์รัปชั่น สำหรับช่วงเวลาวันที่ 15 เมษายน 2557 ถึง วันที่14 เมษายน 2558

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2557 บริษัท นิวแมคอาเธอร์ จำกัด ได้ดำเนินการชำระบัญชีเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2557 บริษัทได้ทำสัญญาเช่าคลังสินค้า เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสินค้า 1 แห่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับการขยายธุรกิจและปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น

เดือนสิงหาคม 2557 บริษัทเพิ่มหน่วยงานแผนกอุปกรณ์อาหาร (Food Equipment) ขึ้น เพื่อรองรับลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้โดยเฉพาะ ซึ่งหน่วยงานนี้สามารถรองรับได้ทั้งงานติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ และงานบริการซ่อมบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2558

บริษัทออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 60 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ในราคา 2.56 บาทต่อหุ้น โดยจำหน่ายได้ทั้งสิ้น 43 ล้านหุ้น ได้รับเงินจากการเพิ่มทุน 110.08 ล้านบาท

บริษัทออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (ใบสำคัญแสดงสิทธิ ครั้งที่ 1 หรือ FVC-W1)  จำนวน 130 ล้านหน่วย เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่คิดมูลค่า โดยจัดสรรได้ทั้งสิ้น 121.50 ล้านหน่วย

บริษัทลงทุนร่วมจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด จำนวน 70,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 70.00 และ บริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด จำนวน 75,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 75.00

ไตรมาสที่ 2 ปี 2558 เริ่มจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นวัตกรรมได้แก่ Biowell และ Waterlogic เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มธุรกิจเพื่อการพาณิชย์ และที่พักอาศัย (B2)                                                                                                        

ซื้ออาคารพาณิชย์  4 คูหา เพื่อใช้เป็นสถานพยาบาลศูนย์ไตเทียมจำนวน 3 คูหา และสำหรับการดำเนินการเป็นศูนย์กระจายสินค้าจำนวน 1 คูหา

ซื้อที่ดินเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ เพื่อเตรียมดำเนินการก่อสร้างอาคารคลังสินค้า และอาคารสำนักงานแห่งใหม่

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2558 บริษัทย่อยได้ทำสัญญาเช่าอาคารคลังสินค้า เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์ผลิตน้ำยาไตเทียม 1 แห่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับการขยายธุรกิจและปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
เปิดหน่วยบริการทางเทคนิคที่อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้บริการครอบคลุมพื้นที่ทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก โดยให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ เดือนมีนาคม 2558 เป็นต้นไป

2559

บริษัทฯ นำประสบการณ์จากการดำเนินธุรกิจติดตั้งระบบน้ำสำหรับศูนย์ไตเทียม การผลิตและจำหน่ายน้ำยาไตเทียม และงานตกแต่งศูนย์ไตเทียมมาต่อยอดสู่ธุรกิจสถานพยาบาลศูนย์ไตเทียม ซึ่งดำเนินการโดย บริษัท  เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด-บริษัทย่อยของบริษัทฯ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ได้เปิดให้บริการฟอกเลือดสาขาแรกแล้วที่ย่านพัฒนาการ

เมื่อเดือนธันวาคม 2559 ลงทุนในเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อขยายธุรกิจหน่วยไตเทียมในโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง

ตลาดเครื่องมือเครื่องใช้และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับทางการแพทย์มีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง และด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่มีมูลค่าสูง รวมทั้งปัจจัยด้านตลาดที่เปิดกว้างแก่ผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่อย่าง บริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด-บริษัทย่อยของบริษัทฯ จึงมีคำสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศหลายรายการเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในปี 2560
2560

ไตรมาสแรกของปี 2560 บริษัทใหญ่สามารถจำหน่ายเครื่องจ่ายเครื่องดื่ม (Celli counter beverage dispenser) เเก่ลูกค้ารายหนึ่งในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมาร์, เวียดนาม) ได้สำเร็จเเละปัจจุบันยังคงมียอดการสั่งซื้อจากลูกค้าในกลุ่มประเทศดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ

เดือนกุมภาพันธ์ 2560 เปิดให้บริการหน่วยไตเทียมในโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสาขาที่ 2 ของธุรกิจสถานพยาบาลศูนย์ไตเทียม ดำเนินการโดย บริษัท  เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด-บริษัทย่อยของบริษัทฯ

บริษัทซื้อที่ดิน 4 แปลงในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าเเละขยายธุรกิจในภาคเหนือ

ทำสัญญาจ้างเหมางานก่อสร้างอาคารสำนักงานเเละคลังสินค้าเเห่งใหม่ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ

บริษัทฯ ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (ใบสำคัญแสดงสิทธิ ครั้งที่ 2 หรือ FVC-W2)  จำนวน 138 ล้านหน่วย เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่คิดมูลค่า เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2560

2561

  • บริหารคลินิกความงาม วุฒิศักดิ์คลินิก 21 สาขา (B3), บริหารคลินิกไตเทียม 5 สาขา (B3)
  • ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ NitroCoffee (B2)
  • เปลี่ยนตำแหน่งธุรกิจ B1
  • เปิดศูนย์บริการเทคนิคเพิ่มเติม และคลังสินค้า (FVC 2)
2562

  • เริ่มโครงการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability Development Program) 
  • ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ Water Dispenser Oasis (B1), Cleansing Gel & Sun Screen (B3)
  • บริหารคลินิกความงาม วุฒิศักดิ์คลินิก 14 สาขา (B3)
  • บริหารคลินิกไตเทียม 8-10 สาขา (B3)